สโมสรฟุตบอลยะลา
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

มุสซ่า ซิลล่า ว่าที่นักเตะโอนสัญชาติคนแรกของเมืองไทย

2 posters

Go down

มุสซ่า ซิลล่า ว่าที่นักเตะโอนสัญชาติคนแรกของเมืองไทย Empty มุสซ่า ซิลล่า ว่าที่นักเตะโอนสัญชาติคนแรกของเมืองไทย

ตั้งหัวข้อ  YALA_18 Sun Jan 03, 2010 12:21 pm

ข้อมูลจาก http://www.coreballthai.com/forum/viewtopic.php?t=12996

สซ่า ซิลล่า ว่าที่นักเตะโอนสัญชาติคนแรกของเมืองไทย

มูสซา เริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 12 ขวบ ซึ่งสโมสรแรกที่เขาลงเล่นอย่างจริงๆจังๆ คือเป็น อะคาเดมี่ เอสเซ็ม ทีมในบ้านเกิด ซึ่งซิลล่าเล่นได้อยู่ไม่นาน เจ้าตัวก็ต้องย้ายถิ่นฐานตามที่ชายไป เนื่องจากพี่ชายของเขาต้องมาทำงานที่เมืองสยามแห่งนี้ ทำให้เจ้าตัวต้องแพ็กกระเป๋าตามพี่ชายมาด้วย และนั่นดูเหมือนชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขาจะต้องปิดฉากลง แต่สิ่งที่เราคิดอาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป

เพราะเมื่อมาถึงเมืองไทย ซิลล่ายังคงได้เล่นบอลอยู่ แต่ก็ได้แต่เตะตามข้างถนนอย่างไร้จุดหมายก่อนที่ชีวิตของเขาจะมาเจอจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อพี่ชายของ “โค้ชเหนียว” วัชระ อันทะคำภู ที่ตอนนี้เป็นทั้งผู้เล่นและโค้ชให้กับทหารบก ได้มาเห็นฟอร์มของซิลล่า และเขาก็รู้ดีว่าซิลล่ามีดีพอเกินกว่าจะมาเตะตามข้างถนนแบบนี้

“ผมเตะบอลอยู่ที่แถวสนามศุภชลาศัย ซึ่งก็เล่นกับคนไทยไปเรื่อยเปื่อย แล้วมีอยู่วันหนึ่งผลก็เตะบอลที่สนามศุภฯ ตามปกติ ก่อนที่พี่ชายของพี่เหนียว (วัชรกร อันทะคำภู) ที่ตอนนั้นเขามาทำธุระได้เห็นผมเล่น แล้วพี่เขาก็เรียกให้พี่เหนียวมาดู ก่อนที่พี่เหนียวจะชวนให้ผมไปเล่นกับสโมสรทหารบกด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ และรู้สึกดีใจมาก”

ซิลล่าเล่นอยู่ทหารบกอยู่ 3 ปี และด้วยฝีเท้าที่ร้ายกาจทำให้ “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่พึ่งขึ้นแชมป์มาเล่นไทยพรีเมียร์ลีกปีแรก ไม่รีรอที่จะจัดการเซ็นสัญญาคว้าตัวซิลล่ามาร่วมทัพทันที่ ซึ่งนั้นคือการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเลยทีเดี่ยว

“ตอนนั้นผมหมดสัญญากับทหารบกพอดี และสโมสรเมืองทองฯยูไนเต็ดก็เข้ามาติดต่อ ซึ่งบอกตามตรงว่าผมคิดหนักมากๆ กว่าจะตัดสินใจได้ เพราะตอนนั้นก็มีหลายสโมสรที่ติดต่อเข้ามาเหมือนกัน ก่อนที่พี่ชายของผมเขาจะแนะนำว่าให้มาเมืองทองฯ ทำให้ผมเชื่อ และถึงตอนนี้คำพูดของพี่ชายก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ”

และด้วยความที่อยู่เมืองไทยเข้าปีที่ 5 มูสซา จึงมีความรู้สึกดีๆกับเมืองสยามเป็นอย่างมาก โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงความในใจให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่ารู้สึกสบายใจมากและรักเมืองไทยขึ้นมาทันที “สบายมากๆรู้สึกว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด”

ซิลล่า พูดให้ฟังเรื่อยโดยไม่ต้องกลัวว่าคนฟังจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะมูสซาสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างชัดแจ๋ว
“ผมพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยครับ” ซิลล่า กล่าวแบบถ่อมตัว ก่อนพูดต่อว่า “ตอนผมไปเล่นให้กับทหารบก ผมไม่สามารถพูดกับใครได้เลย เพราะเพื่อนร่วมทีมไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ทำให้ผมต้องหัดพูดภาษาไทย โดยเรียนรู้เอาเอง ซึ่งใช้เวลาไม่นานผมก็สามารถสื่อสารกับเพื่อนๆได้ และนั้นทำให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาในชีวิตที่เมืองไทยเลย”

แน่นอนว่า ปราบใดที่ประเทศไทยไม่ใช่บ้านเกิดของเขา อุปสรรคต่างๆ ก็คงต้องเข้ามาเยี่ยมเยียนบ้าง แต่ปัญหานั้นก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรที่ซิลล่าจะแก้ไขไม่ได้
“จะมีปัญหาอยู่แต่อย่างเดียว ที่ตอนผมมาอยู่เมืองไทยแรกๆ ก็คือภาษา แต่ผมก็ใช้เวลาไม่นานที่จะศึกษา เพราะผมอยากสื่อสารและพูดคุยกับคนไทย และด้วยความต้องใจนี้ผมเลยพูดภาษาไทยได้อย่างสบาย ส่วนเรื่องอาหารการกินผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ขออยู่อย่างเดียวคืออย่าเผ็ด เพราะผมกินทีไรต้องยอมแพ้ตลอด” ซิลล่าพูดติดตลก

ถึงแม้ซิลล่าจะอยู่เมืองไทยมา 5 ปี แต่เขาก็ไม่ได้มีแฟนเป็นคนไทยแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวมีหวานใจอยู่แล้ว โดยเป็นคนบ้านเดียวกัน ซึ่งเลกสองนี้ ซิลล่าก็จะพามาอยู่ด้วย และเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่สาวๆ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้ฟังแล้วต้องน้ำตาตก ก็คือสถานภาพของซิลล่า เพราะเขาไม่ได้โสดซะแล้ว

“ผมพึ่งแต่งงานกับแฟนสาวเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเองครับ” ซิลล่าพูดไปขำไป “เธอชื่อ เมริอัม ซึ่งผมรู้จักกับเธอมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ไอวอรี่โคสต์ และอีกไม่นานเธอก็จะย้ายมาเมืองไทยเพื่อดูแลผลประโยชน์ของผมด้วย” ซิลล่ากล่าวติดตลก

และนั่นคือความจริงที่ออกมาจากความรู้สึกของ มูสซา ซิลล่า มิดฟิลด์ตัวรับของ “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ทั้งตัวและหัวใจของเขาได้มอบให้เมืองไทยหมดแล้ว ส่วนเรื่องจะโอนสัญชาติมาเป็นคนไทยด้วยหรือไม่นั้น มูสซาบอกเขาพร้อมและยินดีเสมอ

“ผมพร้อมเสมอที่จะโอนสัญชาติมาเป็นคนไทย เพราะ 5 ปีที่ผมอยู่ที่นี่ ผมมีความรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของผมไปแล้ว ซึ่งเมืองไทยได้ให้อะไรกับผมเยอะมาก เพราะฉะนั้นผมอยากจะทำอะไรก็ได้เพื่อเป็นการตอบแทนผืนแผ่นดินนี้ ซึ่งการเล่นฟุตบอลให้ทีมชาติไทยน่าจะเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ และผมก็หวังว่าคงจะมีซักวันที่ผมได้เล่นให้ทีมชาติไทย”

ที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามกีฬา คอลัมน์สตาร์ไทยลีก วันที่ 16 กรกฎาคม 2552
YALA_18
YALA_18
Admin

จำนวนข้อความ : 765
Join date : 29/07/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

มุสซ่า ซิลล่า ว่าที่นักเตะโอนสัญชาติคนแรกของเมืองไทย Empty ชีล่าเผยเคยโดนทาบโอนสัญชาติไทย 11/01/2010 22:32:09

ตั้งหัวข้อ  magkie Wed Jan 13, 2010 1:58 pm

ชีล่า มูซ่า แข้งผิวสี ลูกครึ่งกินิไอวอรี่โคสต์ ห้องเครื่อง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ออกโรงเผย ปีเตอร์ รีด อดีตกุนซือทีมชาติไทย เคยทาบทามให้โอนสัญชาติ เป็นคนไทย เพื่อเล่นทีมชาติ แต่เจ้าตัวยัน จะเลือกเล่นให้ทีมชาติกินี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อ ที่น่าจะมีโอกาสลุ้นติดทีมชาติ ได้มากกว่าทีมชาติ ไอวอรี่โคสต์


ชีล่า มูซ่า แข้งผิวสี ลูกครึ่งกินิไอวอรี่โคสต์ ห้องเครื่องทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่ผ่านมา ออกมาเปิดเผย ตัวเองเคยโดนอดีตกุนซือทีมชาติไทย อย่าง ปีเตอร์ รีด ผช.ผจก.ทีมสโต๊คซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก ของ อังกฤษ ปัจจุบัน ทาบทามให้โอนสัญชาติ เป็นคนไทย เพื่อเล่นทีมชาติ

เนื่องจากเห็นว่า เจ้าตัวอยู่เมืองไทยมานาน และเป็นนักเตะที่ฝีเท้าดี น่าจะเข้าไปช่วยทีมชาติไทยได้อย่างดี แต่หลังจาก ปีเตอร์ รีด พ้นตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยไป ข่าวดังกล่าวก็เงียบหายไป โดยล่าสุดนั้น ชีล่า ที่เคยเล่นให้กับทีมทหารบกก่อนจะมาเมืองทองฯ บอกว่า "ผมคงจะไม่เลือกเล่นให้กับทีมชาติไทยแน่นอน แต่จะเลือกเล่นให้กับทีมชาติกินี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อ ที่น่าจะมีโอกาสลุ้นติดทีมชาติ ได้มากกว่าบ้านเกิดของแม่อย่างไอวอรี่โคสต์ ที่มีนักเตะฝีเท้าดีมากมาย"


http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100111_174.html
magkie
magkie

จำนวนข้อความ : 11
Join date : 01/08/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ