ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
3 posters
หน้า 1 จาก 1
ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
ข้อมูลจาก http://www.thaileagueonline.com/ โดย Extra
กระแสความขัดแย้งภายในทัพ "กอและ"เริ่มชัดเจนขึ้นอีกเมื่อ "ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ออกมายอมรับแล้วว่าได้รับการทามทามจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสให้นำทีมราชวิถี ไปเล่นแทนทีมงานชุดเดิมทีมีปัญหากันอยู่ แต่ยันไม่ใช่มือที่ 3 ขอให้เคลียร์กันก่อน ส่วนชาววังพร้อมอยู่แล้วทั้งสตาฟฟ์โค้ช นักเตะ และงบประมาณที่เตรียมไว้กว่า 5 ล้านบาท
"ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ผู้จัดการทีม "ชาววัง"ราชวิถี ในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 เปิดเผยถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ที่สโมสรจะไปรวมกับ นราธิวาส เอฟซี เพื่อลงแข่งใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2010 แทนที่นักเตะและทีมงานชุดเดิมซึ่งมีปัญหาขัดแย้งภายในกับผู้บริหารและยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เราได้รับการติดต่อมาจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสจริง ซึ่งมีการพูดคุยรายละเอียดกันมาสักพักนึงแล้ว อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่า ราชวิถี ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเป็นมือที่ 3 ให้เกิดความบาดหมางในทีมนราธิวาสแน่นอน
"เราได้แจ้งไปยังทีมนราธิวาสแล้วว่าให้จัดการปัญหาให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาตกลงเรื่องนี้กันอีกครั้งนึงเพื่อไม่ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นตัวการที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดความขัดแย้งกัน ส่วนราชวิถี นั้นเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หากทางนราธิวาสหาข้อยุติกันไม่ได้และต้องการให้เราไปเล่นให้จริง เราก็มีทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอย่าง อ.นริศ สุทธิกรัด ซึ่งเป็นอดีตผู้ฝึกสอนนราธิวาส รวมทั้งนักเตะเยาวชน และงบประมาณในการทำทีมประมาณ 4-5 ล้านบาท เพื่อไปช่วยเหลือได้ทันที "
"ท่านใหม่"ยังกล่าวต่อว่า หากมีการรวมทีมกันจริงๆในเบื้องต้นคงจะเป็นในลักษณะการช่วยเหลือมากกว่า เนื่องจากทางราชวิถี เองได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑลแล้ว ครั้นจะมาเปลี่ยนตอนนี้คงไม่ทัน แต่คงจะส่งเด็กเยาวชนที่อยู่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ในโครงการฝึกอบรมของสโมสรที่นำเนินการมากว่า 2 ปีแล้วไปเล่นให้ ส่วนในอนาคตนั้นยอมรับว่าเป็นไปได้สูงที่เราจะไปรวมกับนราธิวาสอย่างถาวร ตามแผนงานของทีมที่ต้องการสร้างฐานแฟนคลับในภาคใต้ โดยอาจจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "นราธิวาส-ราชวิถี"อย่างที่หลายสโมสรสรทำกันก่อนหน้านี้ก็เป็นได้
กระแสความขัดแย้งภายในทัพ "กอและ"เริ่มชัดเจนขึ้นอีกเมื่อ "ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ออกมายอมรับแล้วว่าได้รับการทามทามจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสให้นำทีมราชวิถี ไปเล่นแทนทีมงานชุดเดิมทีมีปัญหากันอยู่ แต่ยันไม่ใช่มือที่ 3 ขอให้เคลียร์กันก่อน ส่วนชาววังพร้อมอยู่แล้วทั้งสตาฟฟ์โค้ช นักเตะ และงบประมาณที่เตรียมไว้กว่า 5 ล้านบาท
"ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ผู้จัดการทีม "ชาววัง"ราชวิถี ในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 เปิดเผยถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ที่สโมสรจะไปรวมกับ นราธิวาส เอฟซี เพื่อลงแข่งใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2010 แทนที่นักเตะและทีมงานชุดเดิมซึ่งมีปัญหาขัดแย้งภายในกับผู้บริหารและยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เราได้รับการติดต่อมาจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสจริง ซึ่งมีการพูดคุยรายละเอียดกันมาสักพักนึงแล้ว อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่า ราชวิถี ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเป็นมือที่ 3 ให้เกิดความบาดหมางในทีมนราธิวาสแน่นอน
"เราได้แจ้งไปยังทีมนราธิวาสแล้วว่าให้จัดการปัญหาให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาตกลงเรื่องนี้กันอีกครั้งนึงเพื่อไม่ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นตัวการที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดความขัดแย้งกัน ส่วนราชวิถี นั้นเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หากทางนราธิวาสหาข้อยุติกันไม่ได้และต้องการให้เราไปเล่นให้จริง เราก็มีทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอย่าง อ.นริศ สุทธิกรัด ซึ่งเป็นอดีตผู้ฝึกสอนนราธิวาส รวมทั้งนักเตะเยาวชน และงบประมาณในการทำทีมประมาณ 4-5 ล้านบาท เพื่อไปช่วยเหลือได้ทันที "
"ท่านใหม่"ยังกล่าวต่อว่า หากมีการรวมทีมกันจริงๆในเบื้องต้นคงจะเป็นในลักษณะการช่วยเหลือมากกว่า เนื่องจากทางราชวิถี เองได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑลแล้ว ครั้นจะมาเปลี่ยนตอนนี้คงไม่ทัน แต่คงจะส่งเด็กเยาวชนที่อยู่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ในโครงการฝึกอบรมของสโมสรที่นำเนินการมากว่า 2 ปีแล้วไปเล่นให้ ส่วนในอนาคตนั้นยอมรับว่าเป็นไปได้สูงที่เราจะไปรวมกับนราธิวาสอย่างถาวร ตามแผนงานของทีมที่ต้องการสร้างฐานแฟนคลับในภาคใต้ โดยอาจจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "นราธิวาส-ราชวิถี"อย่างที่หลายสโมสรสรทำกันก่อนหน้านี้ก็เป็นได้
YALA_18- Admin
- จำนวนข้อความ : 765
Join date : 29/07/2009
Re: ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
ไม่ยอมแน่นอนYALA_18 พิมพ์ว่า:ข้อมูลจาก http://www.thaileagueonline.com/ โดย Extra
กระแสความขัดแย้งภายในทัพ "กอและ"เริ่มชัดเจนขึ้นอีกเมื่อ "ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ออกมายอมรับแล้วว่าได้รับการทามทามจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสให้นำทีมราชวิถี ไปเล่นแทนทีมงานชุดเดิมทีมีปัญหากันอยู่ แต่ยันไม่ใช่มือที่ 3 ขอให้เคลียร์กันก่อน ส่วนชาววังพร้อมอยู่แล้วทั้งสตาฟฟ์โค้ช นักเตะ และงบประมาณที่เตรียมไว้กว่า 5 ล้านบาท
"ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ผู้จัดการทีม "ชาววัง"ราชวิถี ในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 เปิดเผยถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ที่สโมสรจะไปรวมกับ นราธิวาส เอฟซี เพื่อลงแข่งใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2010 แทนที่นักเตะและทีมงานชุดเดิมซึ่งมีปัญหาขัดแย้งภายในกับผู้บริหารและยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เราได้รับการติดต่อมาจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสจริง ซึ่งมีการพูดคุยรายละเอียดกันมาสักพักนึงแล้ว อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่า ราชวิถี ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเป็นมือที่ 3 ให้เกิดความบาดหมางในทีมนราธิวาสแน่นอน
"เราได้แจ้งไปยังทีมนราธิวาสแล้วว่าให้จัดการปัญหาให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาตกลงเรื่องนี้กันอีกครั้งนึงเพื่อไม่ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นตัวการที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดความขัดแย้งกัน ส่วนราชวิถี นั้นเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หากทางนราธิวาสหาข้อยุติกันไม่ได้และต้องการให้เราไปเล่นให้จริง เราก็มีทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอย่าง อ.นริศ สุทธิกรัด ซึ่งเป็นอดีตผู้ฝึกสอนนราธิวาส รวมทั้งนักเตะเยาวชน และงบประมาณในการทำทีมประมาณ 4-5 ล้านบาท เพื่อไปช่วยเหลือได้ทันที "
"ท่านใหม่"ยังกล่าวต่อว่า หากมีการรวมทีมกันจริงๆในเบื้องต้นคงจะเป็นในลักษณะการช่วยเหลือมากกว่า เนื่องจากทางราชวิถี เองได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑลแล้ว ครั้นจะมาเปลี่ยนตอนนี้คงไม่ทัน แต่คงจะส่งเด็กเยาวชนที่อยู่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ในโครงการฝึกอบรมของสโมสรที่นำเนินการมากว่า 2 ปีแล้วไปเล่นให้ ส่วนในอนาคตนั้นยอมรับว่าเป็นไปได้สูงที่เราจะไปรวมกับนราธิวาสอย่างถาวร ตามแผนงานของทีมที่ต้องการสร้างฐานแฟนคลับในภาคใต้ โดยอาจจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "นราธิวาส-ราชวิถี"อย่างที่หลายสโมสรสรทำกันก่อนหน้านี้ก็เป็นได้
dee nara- จำนวนข้อความ : 1
Join date : 08/02/2010
ไปให้พ้นน่ะราชวิถี...บอล อบต่รออยู่
dee nara พิมพ์ว่า:ไม่ยอมแน่นอนYALA_18 พิมพ์ว่า:ข้อมูลจาก http://www.thaileagueonline.com/ โดย Extra
กระแสความขัดแย้งภายในทัพ "กอและ"เริ่มชัดเจนขึ้นอีกเมื่อ "ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ออกมายอมรับแล้วว่าได้รับการทามทามจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสให้นำทีมราชวิถี ไปเล่นแทนทีมงานชุดเดิมทีมีปัญหากันอยู่ แต่ยันไม่ใช่มือที่ 3 ขอให้เคลียร์กันก่อน ส่วนชาววังพร้อมอยู่แล้วทั้งสตาฟฟ์โค้ช นักเตะ และงบประมาณที่เตรียมไว้กว่า 5 ล้านบาท
"ท่านใหม่"พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ผู้จัดการทีม "ชาววัง"ราชวิถี ในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 เปิดเผยถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ที่สโมสรจะไปรวมกับ นราธิวาส เอฟซี เพื่อลงแข่งใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2010 แทนที่นักเตะและทีมงานชุดเดิมซึ่งมีปัญหาขัดแย้งภายในกับผู้บริหารและยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เราได้รับการติดต่อมาจากผู้ใหญ่ในทีมนราธิวาสจริง ซึ่งมีการพูดคุยรายละเอียดกันมาสักพักนึงแล้ว อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่า ราชวิถี ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเป็นมือที่ 3 ให้เกิดความบาดหมางในทีมนราธิวาสแน่นอน
"เราได้แจ้งไปยังทีมนราธิวาสแล้วว่าให้จัดการปัญหาให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาตกลงเรื่องนี้กันอีกครั้งนึงเพื่อไม่ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นตัวการที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดความขัดแย้งกัน ส่วนราชวิถี นั้นเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หากทางนราธิวาสหาข้อยุติกันไม่ได้และต้องการให้เราไปเล่นให้จริง เราก็มีทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอย่าง อ.นริศ สุทธิกรัด ซึ่งเป็นอดีตผู้ฝึกสอนนราธิวาส รวมทั้งนักเตะเยาวชน และงบประมาณในการทำทีมประมาณ 4-5 ล้านบาท เพื่อไปช่วยเหลือได้ทันที "
"ท่านใหม่"ยังกล่าวต่อว่า หากมีการรวมทีมกันจริงๆในเบื้องต้นคงจะเป็นในลักษณะการช่วยเหลือมากกว่า เนื่องจากทางราชวิถี เองได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑลแล้ว ครั้นจะมาเปลี่ยนตอนนี้คงไม่ทัน แต่คงจะส่งเด็กเยาวชนที่อยู่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ในโครงการฝึกอบรมของสโมสรที่นำเนินการมากว่า 2 ปีแล้วไปเล่นให้ ส่วนในอนาคตนั้นยอมรับว่าเป็นไปได้สูงที่เราจะไปรวมกับนราธิวาสอย่างถาวร ตามแผนงานของทีมที่ต้องการสร้างฐานแฟนคลับในภาคใต้ โดยอาจจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "นราธิวาส-ราชวิถี"อย่างที่หลายสโมสรสรทำกันก่อนหน้านี้ก็เป็นได้
อันนี้มันบอลลีก ด.1 น่ะครับ ไม่ใช่บอล อบต. จะเอาเด็กๆมาเล่นหรือ เเค่คิดก็ผิดเเล้ว.... ราชวีถีเอาตัวให้รอดก่อน ให้ได้เเชมป์ ด2 โซนกทม. เเล้วค่อยมาคุยกัน.....ส่วนผู้บริหารนราคนไหนว่ะ ที่เจรจาเเบบนี้ โง่เหมือนควายเลย....
เเล้วนักเตะนราอุตสาทำผลงานมาดีกับ5เเชมป์ 2009 ยังไม่พออีกหรือครับ....จะทิ้งพวกเขาได้ลงคอหรือ......
RAMAN ART @STUDIO- จำนวนข้อความ : 63
Join date : 05/09/2009
Re: ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
แถลงการณ์ของประธารสโมสร
เรียน กองข่าวสยามกีฬารายวัน หมวดฟุตบอลสยาม
ข้าพเจ้านายมูฮัมมัดซอและห์ หะยีดาโอะ ประธานสโมสรฟุตบอลนราธิวาส เอฟ ซี ขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวข่าวสารของสโมสรฟุตบอลนราธิวาสตามที่ปรากฏในข่าวจากหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันก่อนอื่นต้องขออภัยต่อคุณเชน ( กองข่าวสารฟุตบอลดิวิชั่น1 ) ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นทางโทรศัพท์ได้เท่าที่ควรทั้งนี้เนื่องจากข้าพเจ้าติดภารกิจกับหน่วยงานที่สนับสนุนหลักที่ข้าพเจ้าได้เคยให้ข้อมูลข่าวสารไปกับหนังสือพิมพ์ตามที่ผ่านมา สำหรับรายละเอียดที่จะปรากฏต่อไปนี้ข้าพเจ้าขอความกรุณาจากกองข่าวของท่านได้โปรดอย่าได้ตัดเติม หรือตัดข้อความใดๆที่จะปรากฏออกไปทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้กับกองข่าวสยามกีฬา ตลอดจนผู้รับข่าวสารทั่วไป และพี่น้องแฟนบอลชาวนราธิวาสที่เคารพรักทุกท่าน ที่กำลังติดตามข่าวสารของสโมสรฟุตบอลนราธิวาสด้วยความเป็นกังวล และด้วยความเป็นห่วงจากกรณีที่ปรากฎขึ้นจากสื่อหนังสือพิมพ์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะวันเสาร์ที่ 6 และวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเรื่องภายในสโมสรฯ แต่จากการลงข่าวที่ผ่านมาก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวข้าพเจ้า สโมสรฯ ตลอดจนจังหวัดนราธิวาส และรวมไปถึงการพาดพิงไปยังสโมสรฟุตบอลอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ไม่ได้มีความรู้ในเชิงการพูด การตอบโต้ทางข่าวสาร ดังนั้นข้าพเจ้าจะขอให้รายละเอียดในการชี้แจงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าในลักษณะของการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดในสโมสรฟุตบอลนราธิวาสในลักษณะของการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ โดยที่ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบกับข่าวสารที่จะเกิดขึ้น ดังรายละเอียด ดังนี้
ข้าพเจ้านายมูฮัมมัดซอและห์ หะยีดาโอะ หรือ ฟาตะฮ์ เป็นชาวนราธิวาสโดยกำเนิด ในอดีตที่ผ่านมาข้าพเจ้าเป็นประธานชมรมฟุตบอลอาวุโสของจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนให้การสนับสนุนวงการฟุตบอลทุกระดับของจังหวัดนราธิวาสด้วยใจที่รักในกีฬาฟุตบอล อย่างแท้จริง และประมาณพ.ศ.2550 หรือ พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา นายพิทยา พิมานแมน และนักฟุตบอลของทีมสโมสรฯ เช่น ซูติรมาน เปาะจิ มาหะมะซับลี อะแวบือซา มูฮัมมัดบักรีย์ สือนิ ฯลฯได้เข้ามาขอเข้าพบกับข้าพเจ้าที่บ้านพักของข้าพเจ้าเพื่อขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินค่าใช้จ่ายให้กับ ทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระดับลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2 โซนภาคใต้ โดยที่ข้าพเจ้าได้รวบรวมสมัครพรรคพวกที่มีใจรักทางด้านกีฬาฟุตบอลอีก 5 ท่าน เพื่อเข้าร่วมการดำเนินการสนับสนุนทีมโดยมีข้าพเจ้าเป็นผู้จัดการทีม และมีคณะกรรมการบริหารงานด้านต่างๆอีก 5 ท่านเป็นผู้บริหารทีม ซึ่งจากการบริหารทีมได้รับความร่วมมือที่ดีจากนายพิทยา พิมานแมน และนักฟุตบอลทุกท่านตลอดจนได้รับการสนับสนุนที่ดีจากแฟนบอลชาวนราธิวาสทุกท่านจึงทำให้ทีมประสบความสำเร็จชนะเลิศในโซนภาคใต้พร้อมกับได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรอบมินิลีก 5 ทีม เพื่อเข้าสู่ระดับดิวิชั่น1 และทีมก็สามารถที่จะเข้าสู่การแข่งขันดิวิชั่น1ในฤดูกาล 2553นี้ได้ และจากช่วงเวลา และเหตุการณ์ดังกล่าวข้าพเจ้าได้จ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กับนักกีฬามาโดยตลอด แต่ต้องขอบอกความจริงว่าในบางครั้งอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่ข้าพเจ้า และทีมงานก็ไม่เคยที่จะไม่ได้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ต้องขอโทษ และขอขอบคุณกับนักกีฬาด้วยใจจริงที่ได้ให้ความร่วมมือที่ดีตลอดมา
หลังจากการแข่งขันกับทีมสมุทรปราการในรอบมินิลีกจบลงทีมนราธิวาสได้รับการเลื่อนขึ้นสู่ดิวิชั่น1 ตามระเบียบของการแข่งขัน ทีมผู้บริหารได้เกิดความสั่นคลอนขึ้นในระดับหนึ่งโดยสาเหตุมาจากที่นายพิทยา พิมานแมน ได้พยายามที่จะนำนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่งของจังหวัดนราธิวาสเข้ามาบริหารทีมโดยการบอกเล่าของนายพิทยา พิมานแมนจากคำพูด และสื่อสารสนเทศทางระบบอินเตอร์เน็ตจากเว็บไซต์โบลานารา ของนายพิทยา พิมานแมนที่ว่าข้าพเจ้าเป็นเพียงคนเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ และไม่มีความสามารถที่จะบริหารทีมได้ และจะทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของการบริหารทีมโดยที่นายพิทยา พิมานแมนขอรับตำแหน่งผู้จัดการทีม หวังว่านายพิทยา พิมานแมนคงไม่ปฏิเสธกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่เราเดินทางมารับรางวัลที่โรงแรมเรดิสัน และนายพิทยา พิมานแมนได้บอกถึงเจตนารมณ์นั้น ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่หาดใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้เกิดความสับสนขึ้นในส่วนของคณะผู้บริหารในระดับหนึ่ง แต่ทุกอย่างก็ได้คลี่คลายลง และเกิดความชัดเจนขึ้นเมื่อนักการเมืองท่านนั้นได้ปฎิเสธในข่าวสารดังกล่าว และไม่ได้รับรู้กับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากการที่นายพิทยา พิมานแมนมีความประสงค์ดังกล่าว ทั้งนี้ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณนักการเมืองท่านนั้นด้วยใจจริง และด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข้าพเจ้าได้รับทราบมาโดยตลอดว่าปัญหาทางด้านการบริหารทีมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นปัญหาทางด้านการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของทีมโดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เงินเดือนนักกีฬา สต๊าฟทำงานตลอดจนค่าดำเนินการต่างๆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเริ่มทำการที่จะประสานงานกับหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆที่กรุงเทพเพื่อเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับทีมนราธิวาส โดยที่ข้าพเจ้าไม่ได้ปรึกษากับทีมบริหารประมาณ 2-3ท่าน ทั้งนี้เนื่องจากว่าทีมบริหาร2-3ท่านนั้นยังเกิดความสับสนจากการที่นายพิทยา พิมานแมน ให้ความหวังว่าจะนำเงินมาให้ 10 ล้านบาท และจะทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารทีม แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้วไม่ได้หวั่นไหวกลับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงมุ่งมั่นดำเนินการประสานงานกับภาคเอกชนที่กรุงเทพฯต่อไป โดยที่มีผู้บริหารรับทราบเรื่องประมาณ 2 ท่าน ประเด็นนี้เองจึงนำพามาให้เกิดการปั่นกระแสขึ้นว่าข้าพเจ้าทำงานไม่โปร่งใส ทำงานคนเดียว แต่ข้าพเจ้าขอให้ทีมบริหารนั้นลองทบทวนเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่งว่าจริง หรือไม่ สำหรับประเด็นที่ว่าการจดทะเบียนบริษัทคนเดียวนั้นข้าพเจ้าไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดทั้งนี้เนื่องจากว่าข้าพเจ้าได้ปรึกษากับผู้บริหาร ทุกท่านแล้วและผู้บริหารเห็นสมควรให้ข้าพเจ้าดำเนินการได้ทันทีทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งถึงวันนี้นั้นขอบอกได้ว่าจากการเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวทำให้สามารถที่จะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานเอกชนต่างๆได้ทันก่อนปีงบประมาณของบริษัทนั้นๆ
ส่วนเรื่องที่ว่าข้าพเจ้าตั้งตนเองเป็นประธานสโมสรฟุตบอลนราธิวาสนั้นข้าพเจ้าขอให้นายพิทยา พิมานแมน ทบทวนสมอง หรือความจำเล็กน้อยว่าวันนั้นที่นายพิทยา พิมานแมนได้เข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมกับทีมงานที่ไม่ได้เป็นทีมงานผู้บริหารของทีมนั้น และได้มีการหารือกันถึงเรื่องดังกล่าว ข้าพเจ้าได้รับคำแนะนำจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่าให้ดำเนินการให้เรียบร้อยนั้น ข้าพเจ้าได้เรียกประชุมผู้บริหารที่โรงแรมอิมพีเรียลเพื่อหารือเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสโมสรและก็มีมติให้ข้าพเจ้าเป็นประธาน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงอยากให้ทุกฝ่ายทบทวนเรื่องดังกล่าวด้วยสำนึก และความเป็นจริงด้วยครับ
สำหรับประเด็นในเรื่องที่นายพิทยา พิมานแมนได้นำนักกีฬา 4 ท่านคือ ซูติรมาน เปาะจิ มาหะมะซับลี อะแวบือซา ฟาฮีซัน ยา มูฮัมมัดบักรีย์ สือนิไปพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงก่อนออกเดินทางไปแข่งขันที่จ.พิษณุโลก เพื่อที่ทำการให้ข้าพเจ้ายืนยันในเรื่องของเงินเดือนนั้นข้าพเจ้าได้ยืนยันกับนักกีฬาทั้ง 4 ท่านต่อหน้าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่องดังกล่าวว่าเบี้ยเลี้งซ้อมสามารถจ่ายได้ทันทีหลังจากกลับมาจากการแข่งขัน แต่เงินเดือนจะต้องรอถึงสิ้นเดือนมกราคมจะจ่ายเป็นงวดแรก ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ปฏิบัติดังกล่าวด้วยความเป็นจริงซี่งสามารถตรวจสอบได้จากการนำข้อมูลข่าวสารที่นำเสนอของหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน หมวดฟุตบอลสยามที่ผ่านมาในคอลัมน์ต่างๆที่ได้ให้ความกรุณานำเสนอ
สำหรับเรื่องที่ว่าทางสโมสรฯได้ทำการปลดนายพิทยา พิมานแมนออกจากการเป็นผูฝึกสอนนั้นทางข้าพเจ้ายืนยันว่าไม่ได้มีการปลดออกแต่อย่างใดตามข่าวที่นำเสนอ แต่ข้อเท็จจริงคือทางผู้บริหารได้ทำการประชุมกันที่โรงแรมอิมพีเรียลครบองค์ประชุมโดยมีสาระที่สำคัญในเรื่องดังกล่าว คือ ได้ประชุมถึงเรื่องพฤติกรรมของนายพิทยา พิมานแมนในเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ถูกต้อง กล่าวคือนายพิทยา พิมานแมนได้นำเงินรางวัลจากการแข่งขันแบ่งให้กับนักกีฬาโดยพลการโดยไม่ให้เกียรติกับทางสโมสรฯ โดยที่ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ไปต่อว่าถึงพฤติกรรมดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องขาดสติโดยรวมทั้งวัยวุฒิ และคุณวุฒิ ทางนาพิทยา พิมานแมนจึงได้แสดงคำพูดว่าขอแตกหักกับข้าพเจ้า หวังว่านายพิทยา พิมานแมนคงจะมีสติ และความจำที่ดีถึงเรื่องดังกล่าว เช่นคำพูดที่ว่าถ้าตะฮ์อยู่ พี่ไม่อยู่และเด็กไม่เล่นแน่นอน พร้อมกับทิ้งท้ายว่าให้ไปเคลียร์กับผู้ว่าราชการจังหวัดเอาเอง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนำมาถึงเรื่องปัญหาดังกล่าวในทุกวันนี้
สำหรับประเด็นที่กล่าวพาดพิงถึงสโมสรฟุตบอลราชวิถี ในเรื่องที่จะนำมาเล่นแทนทีมนราธิวาสนั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันด้วยสัจจะ และด้วยชีวิตของข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าไม่เคยให้ข่าว หรือออกข่าว หรือมีแนวคิดแบบนั้นแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าข้าพเจ้าเป็นชาวนราธิวาส ข้าพเจ้าไม่เคยคิดอะไรที่ทำร้ายจิตใจแฟนบอลนราธิวาสอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ข้าพเจ้าต้องขอโทษกับข่าวที่พาดพิงดังกล่าว สำหรับข้อเท็จจริง คือ พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ประธานสโมสรฟุตบอลราชวิถีได้ทรงมีความกรุณาให้ความอุปถัมป์กับข้าพเจ้า และสโมสรฟุตบอลนราธิวาส
โดยที่ข้าพเจ้าไม่ทราบว่านำข่าวดังกล่าวมาแต่อย่างใด
สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าสโมสรฟุตบอลนราธิวาสจะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น1อย่างแน่นอน และหวังว่าหากนักกีฬาของสโมสรฯได้อ่านคงจะมีความเข้าใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำไป ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพื่อสโมสรฯด้วยความตั้งใจจริง และเพื่ออนาคตของนักกีฬาอย่างแน่นอน และขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนหลักที่จะให้การสนับสนุนกับสโมสรฯโดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับข่าวสารดังกล่าว และข้าพเจ้าจะไม่ขอตอบโต้กับข่าวสารที่เป็นเท็จอีกต่อไปเพราะข้าพเจ้ามีเวลาอีกไม่ถึงเดือนในการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านของทีม และขอขอบคุณกับแฟนบอลชาวนราธิวาสที่ยังให้กำลังใจกับข้าพเจ้ามาโดยตลอด
ขอแสดงความนับถือ
นายมูฮัมมัดซอและห์ หะยีดาโอะ
ประธานสโมสรฟุตบอลนราธิวาส
เรียน กองข่าวสยามกีฬารายวัน หมวดฟุตบอลสยาม
ข้าพเจ้านายมูฮัมมัดซอและห์ หะยีดาโอะ ประธานสโมสรฟุตบอลนราธิวาส เอฟ ซี ขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวข่าวสารของสโมสรฟุตบอลนราธิวาสตามที่ปรากฏในข่าวจากหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันก่อนอื่นต้องขออภัยต่อคุณเชน ( กองข่าวสารฟุตบอลดิวิชั่น1 ) ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นทางโทรศัพท์ได้เท่าที่ควรทั้งนี้เนื่องจากข้าพเจ้าติดภารกิจกับหน่วยงานที่สนับสนุนหลักที่ข้าพเจ้าได้เคยให้ข้อมูลข่าวสารไปกับหนังสือพิมพ์ตามที่ผ่านมา สำหรับรายละเอียดที่จะปรากฏต่อไปนี้ข้าพเจ้าขอความกรุณาจากกองข่าวของท่านได้โปรดอย่าได้ตัดเติม หรือตัดข้อความใดๆที่จะปรากฏออกไปทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้กับกองข่าวสยามกีฬา ตลอดจนผู้รับข่าวสารทั่วไป และพี่น้องแฟนบอลชาวนราธิวาสที่เคารพรักทุกท่าน ที่กำลังติดตามข่าวสารของสโมสรฟุตบอลนราธิวาสด้วยความเป็นกังวล และด้วยความเป็นห่วงจากกรณีที่ปรากฎขึ้นจากสื่อหนังสือพิมพ์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะวันเสาร์ที่ 6 และวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเรื่องภายในสโมสรฯ แต่จากการลงข่าวที่ผ่านมาก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวข้าพเจ้า สโมสรฯ ตลอดจนจังหวัดนราธิวาส และรวมไปถึงการพาดพิงไปยังสโมสรฟุตบอลอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ไม่ได้มีความรู้ในเชิงการพูด การตอบโต้ทางข่าวสาร ดังนั้นข้าพเจ้าจะขอให้รายละเอียดในการชี้แจงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าในลักษณะของการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดในสโมสรฟุตบอลนราธิวาสในลักษณะของการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ โดยที่ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบกับข่าวสารที่จะเกิดขึ้น ดังรายละเอียด ดังนี้
ข้าพเจ้านายมูฮัมมัดซอและห์ หะยีดาโอะ หรือ ฟาตะฮ์ เป็นชาวนราธิวาสโดยกำเนิด ในอดีตที่ผ่านมาข้าพเจ้าเป็นประธานชมรมฟุตบอลอาวุโสของจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนให้การสนับสนุนวงการฟุตบอลทุกระดับของจังหวัดนราธิวาสด้วยใจที่รักในกีฬาฟุตบอล อย่างแท้จริง และประมาณพ.ศ.2550 หรือ พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา นายพิทยา พิมานแมน และนักฟุตบอลของทีมสโมสรฯ เช่น ซูติรมาน เปาะจิ มาหะมะซับลี อะแวบือซา มูฮัมมัดบักรีย์ สือนิ ฯลฯได้เข้ามาขอเข้าพบกับข้าพเจ้าที่บ้านพักของข้าพเจ้าเพื่อขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินค่าใช้จ่ายให้กับ ทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระดับลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2 โซนภาคใต้ โดยที่ข้าพเจ้าได้รวบรวมสมัครพรรคพวกที่มีใจรักทางด้านกีฬาฟุตบอลอีก 5 ท่าน เพื่อเข้าร่วมการดำเนินการสนับสนุนทีมโดยมีข้าพเจ้าเป็นผู้จัดการทีม และมีคณะกรรมการบริหารงานด้านต่างๆอีก 5 ท่านเป็นผู้บริหารทีม ซึ่งจากการบริหารทีมได้รับความร่วมมือที่ดีจากนายพิทยา พิมานแมน และนักฟุตบอลทุกท่านตลอดจนได้รับการสนับสนุนที่ดีจากแฟนบอลชาวนราธิวาสทุกท่านจึงทำให้ทีมประสบความสำเร็จชนะเลิศในโซนภาคใต้พร้อมกับได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรอบมินิลีก 5 ทีม เพื่อเข้าสู่ระดับดิวิชั่น1 และทีมก็สามารถที่จะเข้าสู่การแข่งขันดิวิชั่น1ในฤดูกาล 2553นี้ได้ และจากช่วงเวลา และเหตุการณ์ดังกล่าวข้าพเจ้าได้จ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กับนักกีฬามาโดยตลอด แต่ต้องขอบอกความจริงว่าในบางครั้งอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่ข้าพเจ้า และทีมงานก็ไม่เคยที่จะไม่ได้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ต้องขอโทษ และขอขอบคุณกับนักกีฬาด้วยใจจริงที่ได้ให้ความร่วมมือที่ดีตลอดมา
หลังจากการแข่งขันกับทีมสมุทรปราการในรอบมินิลีกจบลงทีมนราธิวาสได้รับการเลื่อนขึ้นสู่ดิวิชั่น1 ตามระเบียบของการแข่งขัน ทีมผู้บริหารได้เกิดความสั่นคลอนขึ้นในระดับหนึ่งโดยสาเหตุมาจากที่นายพิทยา พิมานแมน ได้พยายามที่จะนำนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่งของจังหวัดนราธิวาสเข้ามาบริหารทีมโดยการบอกเล่าของนายพิทยา พิมานแมนจากคำพูด และสื่อสารสนเทศทางระบบอินเตอร์เน็ตจากเว็บไซต์โบลานารา ของนายพิทยา พิมานแมนที่ว่าข้าพเจ้าเป็นเพียงคนเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ และไม่มีความสามารถที่จะบริหารทีมได้ และจะทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของการบริหารทีมโดยที่นายพิทยา พิมานแมนขอรับตำแหน่งผู้จัดการทีม หวังว่านายพิทยา พิมานแมนคงไม่ปฏิเสธกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่เราเดินทางมารับรางวัลที่โรงแรมเรดิสัน และนายพิทยา พิมานแมนได้บอกถึงเจตนารมณ์นั้น ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่หาดใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้เกิดความสับสนขึ้นในส่วนของคณะผู้บริหารในระดับหนึ่ง แต่ทุกอย่างก็ได้คลี่คลายลง และเกิดความชัดเจนขึ้นเมื่อนักการเมืองท่านนั้นได้ปฎิเสธในข่าวสารดังกล่าว และไม่ได้รับรู้กับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากการที่นายพิทยา พิมานแมนมีความประสงค์ดังกล่าว ทั้งนี้ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณนักการเมืองท่านนั้นด้วยใจจริง และด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข้าพเจ้าได้รับทราบมาโดยตลอดว่าปัญหาทางด้านการบริหารทีมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นปัญหาทางด้านการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของทีมโดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เงินเดือนนักกีฬา สต๊าฟทำงานตลอดจนค่าดำเนินการต่างๆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเริ่มทำการที่จะประสานงานกับหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆที่กรุงเทพเพื่อเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับทีมนราธิวาส โดยที่ข้าพเจ้าไม่ได้ปรึกษากับทีมบริหารประมาณ 2-3ท่าน ทั้งนี้เนื่องจากว่าทีมบริหาร2-3ท่านนั้นยังเกิดความสับสนจากการที่นายพิทยา พิมานแมน ให้ความหวังว่าจะนำเงินมาให้ 10 ล้านบาท และจะทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารทีม แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้วไม่ได้หวั่นไหวกลับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงมุ่งมั่นดำเนินการประสานงานกับภาคเอกชนที่กรุงเทพฯต่อไป โดยที่มีผู้บริหารรับทราบเรื่องประมาณ 2 ท่าน ประเด็นนี้เองจึงนำพามาให้เกิดการปั่นกระแสขึ้นว่าข้าพเจ้าทำงานไม่โปร่งใส ทำงานคนเดียว แต่ข้าพเจ้าขอให้ทีมบริหารนั้นลองทบทวนเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่งว่าจริง หรือไม่ สำหรับประเด็นที่ว่าการจดทะเบียนบริษัทคนเดียวนั้นข้าพเจ้าไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดทั้งนี้เนื่องจากว่าข้าพเจ้าได้ปรึกษากับผู้บริหาร ทุกท่านแล้วและผู้บริหารเห็นสมควรให้ข้าพเจ้าดำเนินการได้ทันทีทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งถึงวันนี้นั้นขอบอกได้ว่าจากการเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวทำให้สามารถที่จะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานเอกชนต่างๆได้ทันก่อนปีงบประมาณของบริษัทนั้นๆ
ส่วนเรื่องที่ว่าข้าพเจ้าตั้งตนเองเป็นประธานสโมสรฟุตบอลนราธิวาสนั้นข้าพเจ้าขอให้นายพิทยา พิมานแมน ทบทวนสมอง หรือความจำเล็กน้อยว่าวันนั้นที่นายพิทยา พิมานแมนได้เข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมกับทีมงานที่ไม่ได้เป็นทีมงานผู้บริหารของทีมนั้น และได้มีการหารือกันถึงเรื่องดังกล่าว ข้าพเจ้าได้รับคำแนะนำจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่าให้ดำเนินการให้เรียบร้อยนั้น ข้าพเจ้าได้เรียกประชุมผู้บริหารที่โรงแรมอิมพีเรียลเพื่อหารือเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสโมสรและก็มีมติให้ข้าพเจ้าเป็นประธาน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงอยากให้ทุกฝ่ายทบทวนเรื่องดังกล่าวด้วยสำนึก และความเป็นจริงด้วยครับ
สำหรับประเด็นในเรื่องที่นายพิทยา พิมานแมนได้นำนักกีฬา 4 ท่านคือ ซูติรมาน เปาะจิ มาหะมะซับลี อะแวบือซา ฟาฮีซัน ยา มูฮัมมัดบักรีย์ สือนิไปพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงก่อนออกเดินทางไปแข่งขันที่จ.พิษณุโลก เพื่อที่ทำการให้ข้าพเจ้ายืนยันในเรื่องของเงินเดือนนั้นข้าพเจ้าได้ยืนยันกับนักกีฬาทั้ง 4 ท่านต่อหน้าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่องดังกล่าวว่าเบี้ยเลี้งซ้อมสามารถจ่ายได้ทันทีหลังจากกลับมาจากการแข่งขัน แต่เงินเดือนจะต้องรอถึงสิ้นเดือนมกราคมจะจ่ายเป็นงวดแรก ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ปฏิบัติดังกล่าวด้วยความเป็นจริงซี่งสามารถตรวจสอบได้จากการนำข้อมูลข่าวสารที่นำเสนอของหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน หมวดฟุตบอลสยามที่ผ่านมาในคอลัมน์ต่างๆที่ได้ให้ความกรุณานำเสนอ
สำหรับเรื่องที่ว่าทางสโมสรฯได้ทำการปลดนายพิทยา พิมานแมนออกจากการเป็นผูฝึกสอนนั้นทางข้าพเจ้ายืนยันว่าไม่ได้มีการปลดออกแต่อย่างใดตามข่าวที่นำเสนอ แต่ข้อเท็จจริงคือทางผู้บริหารได้ทำการประชุมกันที่โรงแรมอิมพีเรียลครบองค์ประชุมโดยมีสาระที่สำคัญในเรื่องดังกล่าว คือ ได้ประชุมถึงเรื่องพฤติกรรมของนายพิทยา พิมานแมนในเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ถูกต้อง กล่าวคือนายพิทยา พิมานแมนได้นำเงินรางวัลจากการแข่งขันแบ่งให้กับนักกีฬาโดยพลการโดยไม่ให้เกียรติกับทางสโมสรฯ โดยที่ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ไปต่อว่าถึงพฤติกรรมดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องขาดสติโดยรวมทั้งวัยวุฒิ และคุณวุฒิ ทางนาพิทยา พิมานแมนจึงได้แสดงคำพูดว่าขอแตกหักกับข้าพเจ้า หวังว่านายพิทยา พิมานแมนคงจะมีสติ และความจำที่ดีถึงเรื่องดังกล่าว เช่นคำพูดที่ว่าถ้าตะฮ์อยู่ พี่ไม่อยู่และเด็กไม่เล่นแน่นอน พร้อมกับทิ้งท้ายว่าให้ไปเคลียร์กับผู้ว่าราชการจังหวัดเอาเอง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนำมาถึงเรื่องปัญหาดังกล่าวในทุกวันนี้
สำหรับประเด็นที่กล่าวพาดพิงถึงสโมสรฟุตบอลราชวิถี ในเรื่องที่จะนำมาเล่นแทนทีมนราธิวาสนั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันด้วยสัจจะ และด้วยชีวิตของข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าไม่เคยให้ข่าว หรือออกข่าว หรือมีแนวคิดแบบนั้นแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าข้าพเจ้าเป็นชาวนราธิวาส ข้าพเจ้าไม่เคยคิดอะไรที่ทำร้ายจิตใจแฟนบอลนราธิวาสอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ข้าพเจ้าต้องขอโทษกับข่าวที่พาดพิงดังกล่าว สำหรับข้อเท็จจริง คือ พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ประธานสโมสรฟุตบอลราชวิถีได้ทรงมีความกรุณาให้ความอุปถัมป์กับข้าพเจ้า และสโมสรฟุตบอลนราธิวาส
โดยที่ข้าพเจ้าไม่ทราบว่านำข่าวดังกล่าวมาแต่อย่างใด
สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าสโมสรฟุตบอลนราธิวาสจะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น1อย่างแน่นอน และหวังว่าหากนักกีฬาของสโมสรฯได้อ่านคงจะมีความเข้าใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำไป ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพื่อสโมสรฯด้วยความตั้งใจจริง และเพื่ออนาคตของนักกีฬาอย่างแน่นอน และขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนหลักที่จะให้การสนับสนุนกับสโมสรฯโดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับข่าวสารดังกล่าว และข้าพเจ้าจะไม่ขอตอบโต้กับข่าวสารที่เป็นเท็จอีกต่อไปเพราะข้าพเจ้ามีเวลาอีกไม่ถึงเดือนในการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านของทีม และขอขอบคุณกับแฟนบอลชาวนราธิวาสที่ยังให้กำลังใจกับข้าพเจ้ามาโดยตลอด
ขอแสดงความนับถือ
นายมูฮัมมัดซอและห์ หะยีดาโอะ
ประธานสโมสรฟุตบอลนราธิวาส
justice- ผู้มาเยือน
Re: ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
ผมสับสนเเล้วเพื่อนรักไอ้ต่ะเอ๋ย.....อันไหนถูกอันไหนผิด.....SAKET PALO WEY....
ถึงยังไงการเสียสละเพื่อบอลนราเป็นสิ่งสำคัญยิ่งของทุกๆคน ผมในฐานะเป็นเเฟนบอลคนนึงไม่มีสิทะธ์ใดๆในสโมสรนอกจาก
จากปกป้องทีมที่ผมรักเเละทีมบ้านเกิดผมให้หลุดพ้นจากการกระทำร้ายๆทั้งปวน ผมจะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องเเละพี่น้องนราธิวาส
ก็คงจะคิดเหมือนๆผม.....เพราะคำเดียวที่บอกได้คือ ทุกคนรักทีมนี้มาก....
โอเคครับฝากถึงต่ะเพื่อนรัก....ถ้าทำไปเเล้วถูกต้องก็ทำเถิดผมสนับสนุน....เเต่ถ้าทำไปเเล้วสร้างความเสือมเสียกับนราธิวาส ผมไม่ยอมจริงๆน่ะตรับ
โอเคครับ.....นราสู้ๆ
ถึงยังไงการเสียสละเพื่อบอลนราเป็นสิ่งสำคัญยิ่งของทุกๆคน ผมในฐานะเป็นเเฟนบอลคนนึงไม่มีสิทะธ์ใดๆในสโมสรนอกจาก
จากปกป้องทีมที่ผมรักเเละทีมบ้านเกิดผมให้หลุดพ้นจากการกระทำร้ายๆทั้งปวน ผมจะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องเเละพี่น้องนราธิวาส
ก็คงจะคิดเหมือนๆผม.....เพราะคำเดียวที่บอกได้คือ ทุกคนรักทีมนี้มาก....
โอเคครับฝากถึงต่ะเพื่อนรัก....ถ้าทำไปเเล้วถูกต้องก็ทำเถิดผมสนับสนุน....เเต่ถ้าทำไปเเล้วสร้างความเสือมเสียกับนราธิวาส ผมไม่ยอมจริงๆน่ะตรับ
โอเคครับ.....นราสู้ๆ
RAMAN ART @STUDIO- จำนวนข้อความ : 63
Join date : 05/09/2009
Re: ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
ก่อนอื่น ต้องขออภัยแฟนบอลนราธิวาสทุกคน ที่ผมนำเสนอข้อมูลโดยการคัดลอกบทความเหล่านี้ มาจากเว็ปไวด์หนึ่ง เพื่อนำเสนอข่าวสารให้แฟนบอลชาวยะลารับทราบเท่านั้น มิได้มีเจตนาร้ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะ ผมก็เป็นเลือนเนื้อเชื้อไข นราธิวาสคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้รับใช้ทีมฟุตบอลนราธิวาสเลยก็ตาม
ผมคิดว่า (ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ) ทุกทีมก็มีปัญหา และทุกปัญหาก็มีทางออก แต่จะออกทางไหน อยู่ที่ผู้ที่ร่วมแก้ปัญหาจะคิดหาทางและตัดสินใจ ควรหันหน้าคุยกัน เสียสละกัน เพราะ สุดท้าย จะได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ ก็เป็น นราธิวาส เอฟซี เท่านั้น ที่ได้รับสิ่งเหล่านั้น
ผมคิดว่า (ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ) ทุกทีมก็มีปัญหา และทุกปัญหาก็มีทางออก แต่จะออกทางไหน อยู่ที่ผู้ที่ร่วมแก้ปัญหาจะคิดหาทางและตัดสินใจ ควรหันหน้าคุยกัน เสียสละกัน เพราะ สุดท้าย จะได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ ก็เป็น นราธิวาส เอฟซี เท่านั้น ที่ได้รับสิ่งเหล่านั้น
YALA_18- Admin
- จำนวนข้อความ : 765
Join date : 29/07/2009
Re: ชัด!ราชวิถีรอเสียบนราฯ ตั้งสตาฟฟ์-เงินรอแล้ว
YALA_18 พิมพ์ว่า:ก่อนอื่น ต้องขออภัยแฟนบอลนราธิวาสทุกคน ที่ผมนำเสนอข้อมูลโดยการคัดลอกบทความเหล่านี้ มาจากเว็ปไวด์หนึ่ง เพื่อนำเสนอข่าวสารให้แฟนบอลชาวยะลารับทราบเท่านั้น มิได้มีเจตนาร้ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะ ผมก็เป็นเลือนเนื้อเชื้อไข นราธิวาสคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้รับใช้ทีมฟุตบอลนราธิวาสเลยก็ตาม
ผมคิดว่า (ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ) ทุกทีมก็มีปัญหา และทุกปัญหาก็มีทางออก แต่จะออกทางไหน อยู่ที่ผู้ที่ร่วมแก้ปัญหาจะคิดหาทางและตัดสินใจ ควรหันหน้าคุยกัน เสียสละกัน เพราะ สุดท้าย จะได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ ก็เป็น นราธิวาส เอฟซี เท่านั้น ที่ได้รับสิ่งเหล่านั้น
ขอบคุณครับ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเเสดงความคิดเห็น ไม่ผิดหรอกครับ เพราะประเทศเราใช้ระบบประชาธิปไตยอยู่ บอลนราก็อยากใหืใช้ระบบนี้เหมือนกัน ไม่อยากให้เป็นระะบบคอม....
โอเคครับครับฝากผู้บริหารทั้งหลายจะทำอะไรไปก็นึกถึงเเฟนบอลเเละประชาชนด้วยน่ะครับ เพราะกว่าจะเป็นเเซ็มบ้า นราธิวาส จนถึงทุกวันนี้ต่างคนต่างเหนื่อยมาทุกคน ใช้เหตุเเละผลเป็ฯหลักน่ะครับ....หันหน้าเข้าหากัน....ขอให้ทำในสิ่งที่ดีๆ...เพื่อบ้านเกิดเเละทีมรักของเรา
ผมขอยืนยัดจะไม่อยู่ทางฝ่ายนึงฝ่ายใด ความถูกต้องเป็นสิ่งที่ผมตามหา สู้ๆน่ะเเซ้มบ้านราธิวาส เอฟซี
RAMAN ART @STUDIO- จำนวนข้อความ : 63
Join date : 05/09/2009
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|