สโมสรฟุตบอลยะลา
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

สระบุรีสอยเชียงใหม่ร่วงลิ่วชิงกลุ่ม1ซูเปอร์แชมป์

Go down

สระบุรีสอยเชียงใหม่ร่วงลิ่วชิงกลุ่ม1ซูเปอร์แชมป์ Empty สระบุรีสอยเชียงใหม่ร่วงลิ่วชิงกลุ่ม1ซูเปอร์แชมป์

ตั้งหัวข้อ  YALA_18 Wed Jan 27, 2010 9:02 am

ข้อมูลจาก http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100126_231.html

"ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี ฟอร์มร้อนแรงไม่เลิก หลังจัดการเขี่ยเจ้าภาพ "พยัคฆ์เชียงใหม่" เชียงใหม่ เอฟซี ตกรอบตัดเชือก กลุ่ม 1 ไปเรียบร้อย ทะลุชิงดำ "กว่างซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สอย "หมอผี" สตูล ร่วง 1-0 ฝั่งกลุ่ม 2 "เรือกอและพิฆาต" นราธิวาส ต้อน "ผีตาโขน" เลย ซิตี้ หวิว 1-0 เข้าชิง "กรุงเก่า" อยุธยา ที่แม่นโทษดับซ่า ม.เกษมบัณฑิต มาด้วยประตูรวม 5-4 ศึกลูกหนัง "ซูเปอร์แชมป์ภูมิภาค ครั้งที่ 1" เมื่อวันอังคารที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "ซูเปอร์แชมป์ภูมิภาค ครั้งที่ 1" ระหว่างวันที่ 23-31 ม.ค. 53 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก เป็นเจ้าภาพร่วมกัน โดยเมื่อวันอังคารที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขัน รอบรองชนะเลิศ ของแต่ละกลุ่ม

เชียงใหม่ เอฟซี 1-2 สระบุรี เอฟซี
ที่สนามสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ คู่แรก "พยัคฆ์เชียงใหม่" เชียงใหม่ เอฟซี ทีมอันดับ 1 สาย เอ พบกับ "ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี ที่ผ่านเข้ารอบมาเป็นที่ 2 ของสาย บี นัดนี้ "โค้ชปอนด์" สฤษดิ์ วุฒิช่วย กุนซือใหญ่เจ้าถิ่นไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นหลัก พร้อมกับจัดทัพใหญ่ลงสนาม ด้าน ชูศักดิ์ ศรีภูมิ เฮดโค้ชสระบุรี เอฟซี ส่ง อัคฟ่า ซาม่า มิดฟิลด์จอมทัพเป็นตัวชูโรงอีกเช่นเคย

เริ่มครึ่งแรก ได้ไม่นาน สระบุรี เอฟซี ก็สามารถสร้างเซอร์ไพรส์แฟนคลับที่ตามมาเชียร์ ด้วยการเจาะประตูขึ้นนำไปก่อน น.6 จากฝีเท้าของ มนัส ตัดสุนทร ให้เหล่า ขุนศึกสระบุรี ออกนำไปก่อน 1-0

หลังจากขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือน สระบุรี จะทำอะไรก็ดูดีไปหมด น.29 ก็เกือบมีลุ้นอีกครั้ง จากการสับไกลนอกกรอบเขตโทษของ สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช บอลแรงเกือบฮุกที่จะเสียบใต้คานอยู่แล้ว ยังดีที่ พรรษา มีสัตย์ธรรม กระโดนปัดปลายมือออกหลังไว้ได้ทัน

น.33 กองเชียร์เจ้าถิ่น ก็ได้เฮกันดังลั่น เมื่อ อนุชา ไชยวงศ์ ศูนย์หน้าร่างโย่ง จัดการตะบันฟรีคิกด้วยขวาระยะกว่า 25 หลา เข้าไปอย่างสวยงามให้เชียงใหม่ เอฟซี ตามตีเสมอเป็น 1-1 และก็เป็นสกอร์ในครึ่งแรกที่เกิดขึ้น

กลับมาสู้กันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลังได้ไม่เท่าไหร่ น.48 สระบุรี เอฟซี ก็กลับขึ้นมานำอีกครั้งจากจังหวะการเข้าชาร์จหน้าปากประตูโล่งๆ ของ สมบูรณ์ ทรัพย์พาณิช และทำให้เหล่าขุนศึกออกนำอีกครั้งเป็น 2-1

หลังตกเป็นรองอีกครั้ง ทำให้เชียงใหม่ เอฟซี ต้องโหมบุกเข้าใส่ สระบุรี อย่างหนัก น.63 ก็เกือบที่จะได้ลุ้นเมื่อ ศรันย์ ศรีเดช หาจังหวะยิงในกรอบเขตโทษ แต่ก็ทำได้แค่เสียว บอลหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

น.77 สระบุรี เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน เมื่อ สตีเฟ่น จ็อคกี้ ปราการหลังพันธุ์แกร่งมาโดนเหลืองที่สองเป็นใบแดง หลังไปทำฟาวล์ผู้เล่นเจ้าถิ่นนอกเกม เวลาที่เหลือเชียงใหม่ เอฟซี ก็โหมบุกแหลก เพื่อหวังตีเสมอให้ได้ แต่ก็ทำได้แค่โฉบไปเฉี่ยวมา จบเกม สระบุรี เอฟซี จัดการหักปากเซียน ด้วยการโค่นเจ้าถิ่น เชียงใหม่ เอฟซี 2-1 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ประจำกลุ่มที่ 1 โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง เชียงราย ยูไนเต็ด กับ สตูล เอฟซี ต่อไป

หลังจบเกม "โค้ชปอนด์" สฤษดิ์ วุฒิช่วย เฮดโค้ชเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ได้เผยว่า "โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้คาดหวังกับผลการแข่งขันเอาไว้สูงสักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง แต่ในส่วนของลูกทีมเอง ก็ดูท่าว่าจะเครียด เพราะพวกเขาหวังที่จะสร้างผลงานให้ดีต่อหน้าแฟนบอล จึงทำให้เกร็งกันไปหมด ที่สำคัญคือตัวหลักของเราลงสนามติดต่อกัน และแสดงให้เห็นถึงอาการล้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่เราจะได้แก้ไขจุดบอด โดยเฉพาะเรื่องความฟิตก่อนที่ซีซั่นใหม่จะเริ่มขึ้น"

ส่วน ชูศักดิ์ ศรีภูมิ กุนซือใหญ่สระบุรี เอฟซี กล่าวว่า "ดีใจสุดๆ ครับ ผลการแข่งขันในวันนี้เหนือความคาดหมายจริงๆ ที่สำคัญคือเราได้คำว่าทีมสปิริตกลับมา ลูกทีมทุกคนช่วยกันเล่นภายใต้ความหวังที่ว่าอยากจะช่วยสร้างชื่อให้กับทีมสระบุรี เอฟซี ที่สำคัญต้องขอขอบคุณท่าน วีระพล อดิเรกสาร ปธ.สโมสร ที่คอยดูแลเอาใจใส่ให้ความช่วยเหลือในทุกๆ เรื่อง

เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 สตูล
คู่สอง "กว่างซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด อันดับ 1 สายบี พบกับ "หมอผี" สตูล ที่ 2 ของสายเอ และหากเกมคู่นี้ ใครชนะก็จะผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ประจำกลุ่มที่ 1 ไปพบกับ "สระบุรี เอฟซี" ต่อไป เกมนี้ เชียงราย ยูไนเต็ด ไม่สามารถใช้งาน "อดิศักดิ์ ศรีงาม" ดาวเตะตัวเก่ง ที่ติดโทษแบน ต่ยังมี อนุ สิงหราช, เอดู, ฉัตรชัย นาควิจิตร รวมถึง กอบเดช ชอบมโนธรรม นำทัพ ส่วน สตูล ไม่มีปัญหา ทั้ง พิเชษฐ์ สาดีน, เจษฎา กาสาเอก และ ธันวา พยายาม ลงนำทีมพร้อมหน้า

เริ่มครึ่งแรก เน้นเปิดบอลยาวเข้าใส่กันเป็นหลัก แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่ผ่านแนวรับที่สามารถสกัดกั้นเอาไว้ในหลายๆ จังหวะ น.28 สตูล มีลุ้นจากจังหวะโหม่งหน้าปากประตูของ ยีนส์ พอล แต่สุดท้ายทำได้แค่ถากเสาไปเท่านั้น เวลาที่เหลือยังไม่มีทีมไหน ทำอะไรกันได้ จบครึ่งแรกทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งเวลาหลัง เชียงราย ยูไนเต็ด ดูท่าว่าจะแก้เกมกลับมารุกได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด น.53 เอดู แนวรุกตัวสำคัญของเชียงราย ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ได้บอลทะลุขึ้นมาทางซ้าย ก่อนหาจังหวะสับไกเต็มเต็มข้อ แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่านหมอผีที่ปัดออกหลังเอาไว้ได้ทัน

จนกระทั่ง น.73 "กว่างซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ก็สามารถหาช่องเจาะประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากความผิดพลาดของแนวรับสตูล ที่เคลียร์ไม่ขาดปล่อยให้ อนุชา ช่วยศรี ลากบอลเข้าไปแปรง่ายๆ ให้เชียงราย ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ

ช่วงท้าย ทั้งคู่เริ่มที่จะอัดใส่กันหนักขึ้น จนเกือบที่จะมีเรื่องกัน แต่ยังดีที่ผู้ตัดสินรวมถึงผู้เล่นรายอื่นๆ ของทั้งสอง ต่างก็ช่วยกันเคลียร์เหตุการณ์กันเอาไว้ได้ทัน เวลาที่เหลือ สตูล พยายามเจาะตามช่อง แต่ก็ไม่ผ่านแนวรับ เชียงราย จบเกมเชียงราย ยูไนเต็ด ก็เฉือนเอาชนะ สตูล ไปได้อย่างเฉียดฉิว 1-0 และทำให้ขุนพล "กว่างซ้งมหาภัย" ผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ของกลุ่มที่ 1 ไปพบกับ สระบุรี เอฟซี วันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. ต่อไป

หลังจบเกม "โค้ชจิ๋ว" อภิสิทธิ์ อิ่มอำไพ กุนซือใหญ่เชียงราย ยูไนเต็ด ก็ได้ยอมรับว่า เกมนี้คู่แข่งอย่าง สตูล เล่นได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการเคาะบอลตามช่อง ที่หาโอกาสเจาะประตู แต่วันนี้ ก็เหมือนว่าลูกทีมเราดูจะมีโชคซะมากกว่ากับประตูโทนของเกมวันนี้

ส่วน สุเทพ ปิ่นทองพันธ์ เฮดโค้ชสตูล ยูไนเต็ด ถึงกับพูดอะไรไม่ออก บอกได้อย่างเดียวเลยว่า "เราเล่นดีแล้ว แต่โชคและวาสนามันไม่มีเกิดอยู่ที่ฝั่งเราเท่านั้นเอง"

นราธิวาส 1-0 เลย ซิตี้
ที่สนามกีฬากลาง จ.พิษณุโลก คู่แรก "เรือกอและพิฆาต" นราธิวาส ที่ 1 สาย ซี พบกับ "ผีตาโขน" เลย ที่ 2 สาย ดี โดย 11 คนแรกของ นราธิวาส นำทัพโดย ซูติรมาน เปาะจิ ปีกซ้ายตัวเก่ง และ แบร์นาร์ด กองกลางผิวสี ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู ส่วนเลย ส่ง อโยกินย่า ลงล่าตาข่ายคู่กับ ปรัชญา สิทธิ โดยวันนี้ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก ได้เข้ามาชมเกมในสนามด้วย

เปิดฉากมาทั้งสองทีมมีโอกาสพาบอลเข้าป้วนเปี้ยนบริเวนกรอบเขตโทษของคู่ต่อสู้ฝ่ายละครั้ง แต่ไม่สามารถหาจังหวะสับไกได้ น.16 ซูติรมาน เปาะจิ ดาวเตะตัวเก่งนราฯ ได้ลองซัดไกล 30 หลา บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ วิชิตชัย รักษา นายทวารเลย ยังโดดเซฟไว้ได้

น.28 เปรม ลามา ดาวเตะเลย ได้วอลเลย์เต็มข้อ 25 หลา บอลไปชนคานอย่างจัง ชวดพาทีมขึ้นนำสุดๆ จากนั้นเกมของ เลย เริ่มดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่สามารถส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้เสียที ช่วงท้ายเกม เลย เปิดฉากกดดันอย่างหนัก แต่จนแล้วจนรอดไม่สามารถยิงขึ้นนำได้ ทำให้หมดครึ่งแรก ทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่ถึงนาที เลย มีโอกาสขึ้นนำก่อน จากการยิงของ ปรัชญา สิทธิ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวาแค่ 5 หลา แต่บอลกลับชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย น.65 นราฯ เกือบได้เหมือนจากการโฉบมาโหม่งของแบร์นาร์ด แต่ติดบล็อกผู้เล่นเลย ออกหลังไป น.70 แฟนบอลเลย ต้องเงียบทั้งสนาม เมื่อ นราฯ ฉกบอลได้จาก "ผีตาโขน" ก่อน ซูติรมาน เปาะจิ หลุดเข้าไปในเขตโทษ จิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย ให้ "เรือกอและ" ออกนำ 1-0

จากนั้นเลยเปิดเกมบุกอย่างหนัก และมีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ถูกนายทวารนราฯ เซฟและยิงชนคานไปเองหมด ทำให้จบเกม เลย ไม่สามารถตีเสมอได้ ส่งผลให้ตกรอบไป ส่วน นราธิวาส ทะลุเข้าชิงฯ สำเร็จ

หลังเกม "โค้ชอ๊อด" พิทยา พิมานแมน กุนซือใหญ่ "เรือกอและ" เผยว่า "เราไม่มีดวง เพราะบุกทั้งเกม แต่ยอมรับว่านี่คือแมตช์ที่ดีที่สุด เนื่องจากเราลงมา 2 นัด ซึ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และเริ่มรู้ว่าใครเล่นในตำแหน่งไหนได้บ้าง"

ด้าน "โค้ชเอ๋" ศุภกิจ สุวรรณโชติ กุนซือเลย กล่าวว่า "วันนี้เราขาดตัวหลักทางฝั่งขวาที่จะใช้เล่นงานคู่ต่อสู้ ทำให้เราอัดตัวรุกไป 4 คน ทำให้กลางโบ๋และถูกบุกตั้งแต่ต้นเกม แต่ยอมรับว่าวันนี้เราคมกว่าในจังหวะสุดท้ายเท่านั้น ทำให้เข้าชิงฯ ได้"

อยุธยา 1-1 ม.เกษมบัณฑิต
(อยุธยาชนะจุดโทษ 5-4)
คู่สอง "กรุงเก่า" อยุธยา ที่ 1 สาย ดี พบกับ ม.เกษมบัณฑิต ที่ 2 สาย ซี ซึ่งเกมนี้ สมพงษ์ วัฒนา โค้ชใหญ่ "กรุงเก่า" ส่งนักเตะใหม่อย่าง ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ ดาวเตะลูกนิ่งลงสนาม พร้อมกับ ไพรัช ลิ้มเกียรติสถาพร ขณะที่ ม.เกษมบัณฑิต ยังคงใช้ ภาคภูมิ ทมมา ลงเฝ้าเสาเช่นเดิม ซึ่งเกมนี้ถือเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันของ เกษมบัณฑิต ในทัวร์นาเมนท์นี้

เริ่มเกมมาได้ 10 นาที ม.เกษมบัณฑิต พลาดโอกาสขึ้นนำ เมื่อ ลิขสิทธิ์ โตสุวรรณ หลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลเน้นๆ แต่หลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่เกมจะมีการกระแทกหนักๆ หลายครั้ง แต่ไม่มีเหตุการณ์อะไรบานปลาย

จากนั้นทั้งสองทีม ต่างเปิดเกมรุกเข้าหากันอย่างหนัก แต่ยังไม่มีทีมใดที่สบโอกาสยิงประตูเหน่งๆ ได้เสียที ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงท้ายเกม น.42 สิทธิชัย ไตรศิลป์ กองหลัง อยุธยาฯ เติมขึ้นมายิงเต็มข้อ แต่ไม่ผ่านมือ ภาคภูมิ ทมมา ผู้รักษาประตู เกษมฯ ที่รับเข้าซอง ก่อนเวลาที่เหลือจะไม่มีทีมใดทำประตูกันได้ ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่ 5 นาที อยุธยาฯ ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ก่อนเป็น กฤษณะ ทองศรี ดาวยิงตัวเก่งที่โฉบขึ้นมาโหม่งที่เสาแรกตุงตาข่าย ให้ "กรุงเก่า" นำ 1-0

หลังเสียประตู ม.เกษมบัณฑิต พยายามเปิดเกมรุกสู้ น.56 ก็เกือบได้ จากการหลุดเดี่ยวของ บวร ตาปลา แต่กลับซัดติดบล็อค ไซนี่ นายทวาร อยุธยาฯ ที่ออกมาปิดมุมไว้ได้ทันเวลา ก่อนที่เกมจะดำเนินมาถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ม.เกษมบัณฑิต ทำเกมบุกได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่สามารถยิงประตูตีเสมอได้

จนกระทั่ง น.77 ความพยายามของ ม.เกษมบัณฑิต ก็มาประสบผลสำเร็จ จากการซัดฟรีคิก 2 จังหวะในเขตโทษของ ฉัตรมงคล หล้าโสม ที่วิ่งเข้ามาอัดเต็มข้อไม่เหลือซาก ให้ทีมตีเสมอ อยุธยาฯ 1-1 และถัดมาแค่นาทีเดียว ม.เกษมบัณฑิต ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ไพจิตร ธรรมบันเทิง ไปชักศอกใส่ ไซนี่ นายทวาร อยุธยาฯ ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือก จึงชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป

ก่อนเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูกันได้ ทำให้หมด 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ ซึ่งผลปรากฏว่า อยุธยาฯ ยิงแม่นกว่า ชนะไป 4-3 ประตูรวม 5-4 เข้าไปชิงกับ นราธิวาส สำเร็จ

หลังเกม สมพงษ์ วัฒนา กุนซือ อยุธยาฯ เผยว่า "ใกล้เคียงกัน คือมีโอกาสทั้งสองฝ่าย แต่ของเราถือว่าเด็กนิ่งขึ้นเมื่อเทียบจาก 2 นัดที่ผ่านมา แต่ความสัมพันธ์ของกองกลางกับหน้า ยังคงต้องปรับให้เข้าขากันอีกนิด"

ขณะที่ สุนทร สวมมูล โค้ชใหญ่ ม.เกษมบัณฑิต กล่าวว่า "เราลงเล่น 3 นัดในรอบ 3 วัน นักเตะที่บาดเจ็บก็ยังไม่หาย ดังนั้นถือว่าเด็กๆ ทุกคนทำได้ขนาดนี้ก็แสดงว่าเต็มที่แล้ว ซึ่งวันนี้เราแพ้เพราะประสบการณ์ที่น้อยกว่าเท่านั้นเอง"

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของทั้งสองกลุ่ม วันพฤหัสที่ 28 ม.ค. โดยกลุ่ม 1 ที่สนามกีฬา จ.เชียงใหม่ เป็นการพบกันระหว่าง สระบุรีฯ กับ เชียงรายฯ เวลา 18.00 น. ขณะที่กลุ่ม 2 ที่สนามกีฬากลาง จ.พิษณุโลก เป็นการพบกันระหว่าง นราธิวาสฯ กับ อยุธยาฯ เวลา 18.00 น. เช่นกัน โดยที่สนามกีฬากลาง จ.พิษณุโลก นอกจากจะฟุตบอลแข่งแล้ว ยังมีมหกรรมอาหารให้กับแฟนบอลได้ลิ้มลองกันอีกด้วย
YALA_18
YALA_18
Admin

จำนวนข้อความ : 765
Join date : 29/07/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ